ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ที่ระบบอัตโนมัติกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญต่อความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของระบบการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนประกอบที่มักถูกมองข้าม นั่นคือ "สายไฟ" ที่ใช้ในส่วนที่มีการเคลื่อนที่ของเครื่องจักร
จากการศึกษาและเก็บข้อมูลในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย พบว่าประมาณ 40% ของปัญหาการหยุดชะงักในระบบอัตโนมัติมีสาเหตุมาจากความเสียหายของสายไฟในส่วนที่มีการเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบแขนกล (Robotic Arms) ระบบลำเลียง (Conveyor Systems) หรือเครื่องจักร CNC ที่มีการเคลื่อนที่แบบต่อเนื่อง
ทีมวิศวกรของ แพลนเนท ที แอนด์ เอส ได้ทำการวิเคราะห์และพบว่า สายไฟทั่วไปที่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเคลื่อนที่ มักจะเกิดความเสียหายเมื่อต้องทำงานในสภาวะที่มีการดัดงอซ้ำๆ การบิดตัว หรือการเสียดสีต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการผลิตโดยไม่จำเป็น
📌 ผลกระทบจากการเลือกใช้สายไฟไม่เหมาะสม
1. ความเสียหายทางกายภาพ :
- การฉีกขาดของฉนวน : เมื่อสายไฟต้องเผชิญกับการดัดงอซ้ำๆ ฉนวนด้านนอกจะเกิดรอยแตก และฉีกขาดในที่สุด เปิดโอกาสให้ความชื้น และสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ภายในสาย
- การแตกหักของตัวนำ : ตัวนำภายในที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการเคลื่อนไหวต่อเนื่องจะเกิดการล้าและแตกหัก ทำให้สัญญาณไม่เสถียรหรือขาดหายไป
- การเสื่อมสภาพก่อนเวลา : สายไฟทั่วไปมักเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด เมื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมัน สารเคมี หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งพบได้ทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรม
จากการตรวจสอบในโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งหนึ่ง พบว่าสายไฟทั่วไปที่ใช้ในระบบแขนกลมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 3-6 เดือนเท่านั้น ก่อนที่จะเกิดความเสียหายและต้องเปลี่ยนใหม่
2. ผลกระทบต่อการผลิต :
- การหยุดชะงักของสายการผลิต : เมื่อสายไฟเกิดความเสียหาย ระบบอัตโนมัติจะหยุดทำงานทันที ส่งผลให้สายการผลิตทั้งหมดหยุดชะงัก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายมูลค่าสูงในโรงงานที่ทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
- ต้นทุนการซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น : นอกจากค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสายไฟใหม่แล้ว ยังมีค่าแรงของช่างเทคนิค และค่าเสียโอกาสจากการที่เครื่องจักรไม่สามารถทำงานได้
- คุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม่สม่ำเสมอ : ในกรณีที่สายไฟเริ่มเสื่อมสภาพแต่ยังไม่ขาดสมบูรณ์ อาจส่งผลให้สัญญาณควบคุมไม่เสถียร ทำให้เครื่องจักรทำงานผิดพลาด และส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์
จากข้อมูลในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำ พบว่าการหยุดชะงักของสายการผลิต เนื่องจากปัญหาสายไฟเสียหายสร้างความสูญเสียโดยเฉลี่ย 150,000 - 500,000 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของการผลิต
⚡ มาทำความรู้จักสายไฟที่เหมาะสมสำหรับงานเคลื่อนที่ ⚡
สายไฟ KURAMO ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เข้มงวดของอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และระบบอัตโนมัติ
👉 คุณสมบัติเด่น
1. การทนต่อการดัดงอ สายไฟ KURAMO ถูกออกแบบมาให้ทนต่อการดัดงอซ้ำๆ
- รองรับการเคลื่อนที่มากกว่า 10 ล้านรอบ : ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการ และสามารถทนต่อการดัดงอได้มากกว่า 10 ล้านรอบโดยไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งมากกว่าสายไฟทั่วไปถึง 20 เท่า
- รัศมีการดัดงอต่ำสุดเพียง 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลาง: สามารถดัดงอได้ในรัศมีที่แคบมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด หรือระบบที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
- โครงสร้างตัวนำแบบ Ultra-Fine Stranded : ตัวนำภายในประกอบด้วยเส้นลวดทองแดงขนาดเล็กพิเศษจำนวนมาก ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อการดัดงอซ้ำๆ โดยไม่เกิดการแตกหัก
ในการทดสอบเปรียบเทียบกับสายไฟทั่วไป พบว่าสายไฟ KURAMO สามารถทนต่อการดัดงอได้นานกว่าถึง 10-15 เท่า ในสภาวะการทำงานเดียวกัน
2. ความทนทานพิเศษ นอกจากความยืดหยุ่นแล้ว สายไฟ KURAMO ยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในโรงงานอุตสาหกรรม
- ทนต่อน้ำมันและสารเคมี : ฉนวนพิเศษที่ใช้ในสายไฟ KURAMO สามารถทนต่อการสัมผัสกับน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันไฮดรอลิก และสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตได้เป็นอย่างดี
- ทนอุณหภูมิ -5°C ถึง 80°C : สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงอุณหภูมิกว้าง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
- ป้องกัน EMI/RFI : สายไฟบางรุ่นมีการออกแบบพิเศษเพื่อป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) และคลื่นความถี่วิทยุ (RFI) ซึ่งสำคัญมากสำหรับระบบควบคุมที่ต้องการความแม่นยำสูง
การทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงพบว่า สายไฟ KURAMO ยังคงรักษาคุณสมบัติทางไฟฟ้าและทางกายภาพได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะผ่านการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมันและสารเคมีเป็นเวลานาน
3. การติดตั้งที่ยืดหยุ่น สายไฟ KURAMO ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาทำได้ง่ายขึ้น
- น้ำหนักเบา : ด้วยการออกแบบพิเศษ ทำให้สายไฟ KURAMO มีน้ำหนักเบากว่าสายไฟทั่วไปที่มีขนาดเดียวกันประมาณ 15-20% ช่วยลดภาระของระบบ Cable Track และทำให้การเคลื่อนที่เป็นไปอย่างราบรื่น
- ความยืดหยุ่นสูง : สายไฟมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถจัดเรียงและติดตั้งในพื้นที่จำกัดหรือซับซ้อนได้ง่าย
- ติดตั้งง่าย : ด้วยคุณสมบัติการดัดงอที่ดีเยี่ยม ทำให้การติดตั้งในระบบ Cable Track หรือระบบเคลื่อนที่อื่นๆ ทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่า
👉 ตัวอย่างสายไฟสำหรับ Cable Track
KURAMO มีผลิตภัณฑ์สายไฟยืดหยุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบ Cable Track และเครื่องจักรเคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น:
- KURAMO FANC-110SBZ : สายไฟที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเคลื่อนที่แบบต่อเนื่อง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานใน Cable Track ของระบบอัตโนมัติ มีความทนทานต่อการดัดงอสูงถึง 15 ล้านรอบ และมีฉนวนพิเศษที่ทนต่อน้ำมันและสารเคมี
- KURAMO VCTF23NXX : สายคอนโทรลชนิดกลมที่ทนแรงดันได้ 300 โวลต์ มีฉนวนด้านนอกทำจาก PVC คุณภาพสูง และมีเส้นฝอยทองแดงภายในที่มีความละเอียดเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับงานควบคุมทั่วไปในระบบอัตโนมัติ
- KURAMO VCTF10K : สายไฟคอนโทรลที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรกลอัตโนมัติและระบบนิวเมติก
✨🌟การเลือกใช้สายไฟแบรนด์ KURAMO ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาการเสียหายของสายไฟ แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว🌟✨
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 📲 ติดต่อได้ที่ บริษัท แพลนเนท ที แอนด์ เอส จำกัด เรามีทีมวิศวกรมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษา !!
Call : 02-720-3288
Line Official : @PLANETTANDS
Email : info@planet.co.th
FB : www.facebook.com/planettands
IG : www.instagram.com/planettands
TikTok : www.tiktok.com/@planettands